| ความพยายามที่จะให้มี การตราพระราชบัญญัติเกี่ยวกับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก 
                          ใน พ.ศ. ๒๕๐๐ เมื่อรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ยกร่าง 
                          พระราชบัญญัติรับรองวิทยฐานะปริญญา ของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 
                          เพื่อเสนอต่อสภาพผู้แทนราษฎร แต่รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม 
                          สิ้นสุดลงเพราะถูกยึดอำนาจการปกครอง ร่างพระราชบัญญัตินี้จึงตกไป 
                          
 ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๙ คณะสงฆ์ได้เปิดการอบรม " พระธรรมฑูตไปต่างประเทศ 
                          " ขึ้น โดยสำนักฝึกอบรมตั้งอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร 
                          และมอบให้เจ้าหน้าที่ของมหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินงาน 
                          และให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งนี้ 
                          เข้ารับการฝึกอบรมเป็นหลักเมื่อการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดี 
                          จึงมีโครงการที่จะขยายการศึกษาของสำนักฝึกอบรมพระธรรมฑูตขึ้นเป็นการศึกษาระดับปริญญาโทและเห็นว่า 
                          ควรจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยขึ้น
 คณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ได้พบปัญหาว่า 
                          ก่อนที่จะจัดการศึกษาขั้นปริญญาโทได้นั้น การศึกษาระดับปริญญาตรี 
                          จะต้องได้รับการรับรองมิฉะนั้น ปริญญาโทก็จะไร้ความหมาย 
                          ทุกฝ่ายจึงเป็นพ้องกันว่า "จะต้องให้รัฐบาลไทยรับรองฐานะและปริญญาของมหาวิทยาลัยสงฆ์เสียก่อน" 
                          และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่างเคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาว่า 
                          ทุกครั้งที่รัฐบาลพิจารณาเรื่องการรับรองมหาวิทยาลัยสงฆ์ 
                          รัฐบาล มักอ้างว่า "มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งนั้น 
                          คณะสงฆ์เองก็ยังไม่รับรอง แล้วจะให้รัฐบาลรับรองได้อย่างไร"
  คณะอนุกรรมการจึงตกลงกันว่าจะดำเนินการให้คณะสงฆ์รับรองเสียก่อน 
                          จะได้ปูพื้นฐานให้รัฐบาลรับรองต่อไป ในที่สุดก็ได้มี คำสั่งมหาเถรสมาคม 
                          เรื่องการศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๑๒ โดยมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม 
                          เมื่อวันอังคารที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๑๒ การที่มหาเถรสมาคม ได้ออกคำสั่งนี้ถือเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการว่า 
                          มหามกุฏราชวิทยาลัย และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ 
                          และถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา ของคณะสงฆ์ไทย  คำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับ มี ๑๒ ข้อ สาระสำคัญอยู่ในข้อต่อไปนี้ข้อ ๓ นับแต่วันประกาศใช้คำสั่งนี้ ให้การศึกษาของสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย 
                          ในพระบรมราชูปถัม์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 
                          ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว 
                          เป็นการศึกษาของคณะสงฆ์
  ข้อ ๗ ถ้าเป็นการสมควร มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองจะร่วมกันจัดการศึกษาขั้นบัณฑิตวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่ง 
                          โดยอนุมัติของสภาการศึกษาของคณะสงฆ์ก็ได้  คำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับนี้มีความสำคัญมาก เมื่อมีความพยายามที่จะให้มีการรับรองมหาวิทยาลัยสงฆ์ในระยะต่อมา 
                          เหตุผลสำคัญที่บุคคลผู้เกี่ยวข้องยกขึ้นชี้แจงต่อรัฐบาลคือ 
                          การอ้างถึงคำสั่งมหาเถรสมาคมฉบับนี้ และการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์ 
                          ก็ได้อาศัยคำสั่งมหาเถรสมาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นฐาน 
 |